วันอาทิตย์ที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2554

ทัศนศึกษา 7 (เดินทางกลับ)

(ต่อจากตอนที่ 6)

และแล้วก็ได้เวลาเดินทางกลับ

คณะสามเณรวัดร่องส้าวโดยสารรถไฟ

จากสถานีหัวลำโพงมุ่งสู่จังหวัดลำพูน

พร้อมทั้งเก็บภาพความประทับใจ

และความสวยงามของกรุงเทพมหานครเอาไว้ในความทรงจำ



โรงซ่อมหัวรถจักร


บ้านริมคลองสองข้างทางรถไฟ


บ้านริมทางรถไฟ


ถึงหลังคาจะมุงสังกะสีเก่าๆ...แต่เรามีดาวเทียมทุกหลัง


ชมทิวทัศน์สองข้างทางรถไฟด้วยความเพลิดเพลิน


อีกอิริยาบทบนรถไฟ


ขบวนรถไฟเก่าที่นำมาทำเป็น "ห้องสมุดรถไฟเยาวชน" ที่สถานีบางซื่อ


บ้านทรงไทยริมน้ำ ที่เห็นแล้วนึกอิจฉาเจ้าของอยู่ไม่น้อย


ความอุดมสมบูรณ์ของนาข้าวที่เขียวขจี ดูสบายตาเวลามอง


ลพบุรี เมืองแห่งวานร


"พระปรางค์สามยอด" โบราณสถานอันเก่าแก่และทรงคุณค่า


เพลิดเพลินกับการชมวิวสองข้างทาง


เงาสะท้อนของพระอาทิตย์ในนาข้าวยามเย็น


ภาพสุดท้าย เป็นการกล่าวลาพระอาทิตย์ และผู้ชม

ทัศนศึกษา 6 (พระที่นั่งวิมานเมฆ และพระราชวังดุสิต)

(ต่อจากตอนที่ 5)

ในวันที่ 17 มกราคม พ.ศ.2554 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการทัศนศึกษา

คณะสามเณรวัดร่องส้าวได้มีโอกาสเข้าเยี่ยมชม

พระที่นั่งวิมานเมฆ และพระราชวังดุสิต

แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ไม่ได้รับอนุญาตให้ถ่ายรูปภายในพระที่นั่ง

จึงมีแต่รูปภายนอกพระที่นั่งมาให้ชมกัน


ครูบาจรัญและคณะสามเณรวัดร่องส้าวถ่ายรูปร่วมกันบริเวณหน้าพระที่นั่งวิมานเมฆ


ภาพทางขึ้นพระที่นั่ง ซึ่งเป็นทางที่เข้าเยี่ยมชม


ขยายดูกันให้ชัดๆ กับความงามอันวิจิตรของพระที่นั่งไม้สักทอง


อีกมุมซึ่งถ่ายจากสนามหญ้า


พระที่นั่งในส่วนนี้ชั้นบนสุดเป็นห้องพระบรรทม

และห้องทรงงานของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว


ตำหนักพระองค์เจ้าหญิงอรไทยเทพกัญญา ซึ่งจัดแสดงผ้าไทยโบราณ


พระที่นั่งอภิเศกดุสิตที่มีความงดงามของลวดลายการฉลุไม้


อีกมุมหนึ่งของความงามอันทรงคุณค่าแห่งงานศิลป์

ทัศนศึกษา 5 (วัดโพธิ์)

(ต่อจากตอนที่ 4)

หลังจากการเยี่ยมชมวัดอรุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

คณะสามเณรก็ได้ลงเรือข้ามฟากกลับมายังฝั่งวัดโพธิ์


บนเรือโดยสารขณะข้ามฟากกลับมายังฝั่งวัดโพธิ์


และแล้วก็มาเจอเข้ากับ....แต่น..แต้น...ยักษ์วัดโพธิ์


พระไสยาสน์ในวิหารพระนนอนที่วัดโพธิ์ มีความยาวทั้งสิ้นยี่สิบเส้นสามวา


คณะสามเณรทำประทักษิณรอบพระไสยาสน์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา


ขณะทำประทักษิณาวัตร


อีกมุมหนึ่งขณะทำประทักษิณาวัตร


พระพักตร์อันนิ่งสงบของพระไสยาสน์


อีกมุมหนึ่งของพระไสยาสน์


พระเจดีย์ภายในวัดโพธิ์ สมัยต้นรัตนโกสินทร์ ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ


อีกมุมหนึ่งของพระเจดีย์


พระเจดีย์ที่สร้างโดยพระมหากษัตริย์ รัชกาลที่ 1, รัชกาลที่ 2, และรัชกาลที่ 3


ถ่ายรูปหมู่ภายในบริเวณวัดโพธิ์


รูปปั้นฤๅษีดัดตน


"เขามอ" ภายในวัดโพธิ์ แสดงท่าฤๅษีดัดตน


ความงดงามของสถาปัตยกรรมแบบไทยของวัดโพธิ์


ถ่ายหมู่เป็นที่ระลึก


ขอเดี่ยวบ้าง


เดินแต่เช้าจนเย็น...ขอนั่งพักก่อน


มาดเท่ห์ๆ ของยักษ์วัดโพธิ์


นี่ก็อีกเช่นกัน....


สถาปัตยกรรมแบบจีนภายในวัดโพธิ์


นอกจากตุ๊กตาจีนแล้วก็ยังมีสถูปทรงจีนอีกด้วย


พระพุทธรูปในศาลาราย

ทัศนศึกษา 4 (วัดอรุณฯ)

(ต่อจากตอนที่ 3)

หลังจากเยี่ยมชมวัดระฆังฯ เรียบร้อยแล้ว

ก็ลงเรือโดยสารต่อมาที่วัดอรุณฯ ซึ่งอยู่ฟากแม่น้ำเดียวกัน


พระปรางค์วัดอรุณฯ ถ่ายจากเรือโดยสาร


ขณะขึ้นจากเรือโดยสาร


มาถึงแล้ววัดอรุณฯ


ความสง่างามของพระปรางค์ที่เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของประเทศไทย


โยม: "หลวงพ่อคะ พวกหนูมีเรื่องจะขอเรียนถามหน่อยค่ะ"

หลวงพ่อ: "เอ่อ...จะไม่นิมนต์หลวงพ่อเข้าที่ร่มก่อนเหรอโยม"


ความงามของพระปรางค์ในมุมใกล้ (คล้ายๆ จะเป็นมุมเงย)


ความตระหง่าน ตระการตาของพระปรางค์วัดอรุณฯ


อีกซักครั้งในมุมเงยกับความงามอันเป็นเอกลักษณ์


เมื่อมองลงมาจากชั้แรกขององค์พระปรางค์


สถาปัตยกรรมที่งดงามและวิจิตรพิสดาร


ดูกันใกล้ ชัดๆ กับลวดลายอันวิจิตร


ลวดลายอันงดงาม ประดับด้วยกระเบื้องเคลือบ คงความงามมาได้จนปัจจุบัน


เผลอแป๊บเดียว ขึ้นมาสูงเหมือนกันแฮะ มองเห็นแม่น้ำเจ้าพระยา และวัดโพธิ์อยู่ไกลๆ


มองลงมาดูเห็นคนตัวนิดเดียวเอง


เห็นทางลงชันซะขนาดนี้ ไม่ไหวเหมือนกันแฮะ.....ขาสั่น


ความสง่างามของยักษ์วัดแจ้งอันเป็นตำนาน


ขอถ่ายรูปไว้เป็นที่ระลึกซักหน่อย ไหนๆ ก็มาแล้ว


สามเณรวัดร่องส้าว VS ยักษ์วัดแจ้ง


ถ่ายใกล้ๆ ให้เห็นความสง่างามชัดๆ